TRACHU.COM : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย

ชุมชนกฎหมาย => ถามตอบปัญหากฎหมายสำหรับประชาชน => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr.Tzusi ที่ 05 เมษายน 2011, 03:34:33 pm



หัวข้อ: กลัวโดนอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Tzusi ที่ 05 เมษายน 2011, 03:34:33 pm
เมื่อปี2542ผมถูกธอส.ฟ้อง ซึ่งผมก็ไปทำสัญญาประนีประนอมกับธนาคารฯที่ศาลแต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำระหนี้
เพราะขณะนั้นผมตกงานมีรายได้เล็กๆน้อยๆแทบเอาตัวไม่รอด จึงถูกยึดบ้านไปขายทอดตลาดในปี2550   
จู่ๆเมื่อเดือนที่แล้วก็มีจดหมายมาจากสำนักงานทนายแห่งหนึ่งมาบอกว่า ผมยังมีค้างหนี้ธอส.อีก900,000 บาท
กว่าขอชำระภายใน 30 วันนับแต่ได้รับหนังสือ มิฉะนั้น จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในจดหมายดังกล่าวไม่มีราย
ละเอียดเลยว่า ผมค้างชำระเงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆเท่าไร มีแต่ยอดหนี้รวมยอดเดียวโดดๆ ทำให้
ผมและครอบครัวเครียดมาก เลยอยากขอคำแนะนำจากผู้รู้เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ดังนี้ครับ :-
 1.) ทางสำนักงานทนายส่งคำร้องขอประนอมหนี้มาให้ด้วย บอกให้ผมเซ็นชื่อในแบบฟอร์มและกรอกข้อมูลส่วนตัว
กลับไปให้เขา เพื่อยื่นเรื่องให้ธนาคารฯพิจารณาลดหย่อนหนี้ให้(แบบฟอร์มมีทั้งหมด 3 ใบไม่มีโลโก้ หรือชื่อธอส.
แต่อย่างใด) ทนายความบอกว่า ถ้าธนาคารฯอนุมัติลดหนี้ให้ตามคำร้องและผมสามารถชำระหนี้ได้เสร็จสิ้นธนาคารฯ
ก็จะปลดหนี้ให้และชื่อผมกับภรรยาก็จะไม่ติดเครดิตบูโรอีกต่อไป
       ผมยังไม่ได้ส่งคำร้องกลับไป เพราะกลัวธนาคารฯจะเอาคำร้องฯเป็นหลักฐานฟ้องร้องผมอีกภายหลัง หากผม
ไม่สามารถชำระหนี้ตามจำนวนที่ธนาคารฯจะอนุมัติได้
       จึงขอเรียนถามท่านผู้รู้ว่าประเด็นที่ผมกังวลอยู่นั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ครับ
  2.) คนแถวบ้านพูดว่า กรณีที่ธนาคารญยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาดและคดีเกิน 10 ปีแล้ว ธนาคารฯจะยึดทรัพย์
เราไม่ได้อีกเพราะคดีขาดอายุความแล้ว เป็นจริงดังที่เค้าพูดกันหรือเปล่าครับ.

                                                                                              คนแก่ภูธร
   


หัวข้อ: Re: กลัวโดนอีก
เริ่มหัวข้อโดย: ทนายเจม ที่ 05 เมษายน 2011, 09:38:54 pm
1. จากที่คุณเล่ามา คดีได้มีการบังคับคดีแล้ว คงเหลือหนี้ที่คุณต้องรับผิดชอบอีกประมาณ 900,000 บาท ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องทำบันทึกใดๆ ถ้าจะเจรจาหนี้ ให้ติดต่อธนาคารโดยตรง

2. เจ้าหนี้สามารถดำเนินการบังคับคดีลูกหนี้ได้ภายใน 10 ปี นับแต่ศา่ลมีคำพิพากษาถึงที่สุด กรณีนี้ ได้มีการทำยอม และ ศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว ดังนั้น ธนาคารเจ้าหนนี้ จึงมีสิทธิบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตามยอม


หัวข้อ: Re: กลัวโดนอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Tzusi ที่ 06 เมษายน 2011, 08:59:13 am
ขอบพระคุณท่านทนายเจมเป็นอย่างสูงที่กรุณาตอบข้อข้องใจ แต่ผมลืมไปอีกเรื่องจึงขอถือโอกาสเรียน
ถามเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ดังนี้ครับ:-
  1.) ทางสำนักงานทนายบอกว่ายอดหนี้ที่แจ้งมาเป็นยอดคงเหลือ ณ วันขายทอดตลาด(ปี2550)ถ้า
ธนาคารฯคิดดอกเบี้ยมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งต้นและดอกเบี้ยรวมกันคงเกิน 1 ล้านแล้ว ธนาคารฯจะเอาหนี้
จำนวนนี้มาฟ้องล้มละลายผมอีกทีได้หรือไม่ครับ?
  2.) ตอนที่ทำสัญญาประนีประนอมฯกับธอส.เป็นช่วงเดือนเมษายน 2542 โดยผมตกลงจะผ่อนให้ธอส.
งวดแรกเดือนกรกฎาคม 2542 อย่างนี้ถือว่าอายุความบังคับคดีเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไรครับ?


หัวข้อ: Re: กลัวโดนอีก
เริ่มหัวข้อโดย: ทนายเจม ที่ 06 เมษายน 2011, 02:53:51 pm
1. หากหนี้ของบุคคลธรรมดาเกินกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป หากยังสามารถบังคับได้ตามกฎหมาย เจ้าหนี้สามารถนำมูลหนี้นั้นมาฟ้องให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายได้

2. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีท่านได้ ภายใน10ปี นับแต่วันที่ท่านผิดนัดตามคำพิพากษาตามยอม เมื่อศาลออกหมายบังคับคดีให้เจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้สามารถร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของลูกหนี้ นำมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาจนกว่าจะครบถ้วน

ทั้งนี้ หากกรณีของท่าน ธนาคารได้ออกหมายคำบังคับภายใน 10 ปี นับแต่ท่านผิดนัด ธนาคารก็ยังมีสิทธิดำเนินการบังคับคดีท่านอยู่ แต่หากธนาคารไม่ได้ดำเนินการขอศาลออกหมายบังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่ศาลพิพากษา หนี้ดังกล่าวไม่ขาดอายุความ แต่ถือว่าธนาคารหมดสิทธิบังคับคดีท่านครับ