ซื้อบ้านแต่คนขายติดจำนองบ้านกับธนาคาร

[newtattt]

คือคนขายมีบ้านที่ติดธนาคาร และไม่มีเงินจ่ายจึงต้องการขายเอาเงินไปโป๊ะน้องสาวผมจึงตกลงซื้อบ้านหลังนี้ โดยจ่ายเงินสดไปจำนวนหนึาง  และตกลงกุ้อีกจำนวนนึงต่อมากู้ไม่ผ่าน คนขายจึงเสนอให้ผ่แนต่อผ่านเขาเองโดยทำสัญญากันว่าได้จ่ายเงินไปส่วนหนึ่งและมีข้อตกลงว่าจ่ายครบจะโอน แต่ต่อมาคนขายที่เป็นคนรู้จักตุกติกจะมาขอเพิ่มเงินแสนนึง จะไม่ยอมโอน ทั้งๆที่เราทำบ้านไปทั้งหมดแล้ว พอจะมีช่องที่เราสามารถดำเนินอะไรได้บ้างไหมครับ

[มโนธรรม]

ก็มีช่องทางทำได้สองแนวทาง คือ  ทางแรก ที่ทำไปแล้ว  คือ  เจรจาสามฝ่าย  ระหว่าง เจ้าของ ผู้จะซื้อ และธนาคาร  ถ้าเจรจากันได้ลงตัว ก็โอนบ้านและที่ดิน ให้ผู้ซื้อทั้งที่ติดจำนอง  ผู้ซื้อในฐานะเจ้าของก็ผ่อนให้หนี้จำนองต่อไป ค่าส่วนต่างก็ตกลงกันให้เรียบร้อย วิธีนี้เป็นที่นิยมกันแพร่หลาย  ไม่จำเป็นต้องไปกู้เงินจากธนคาร   ลองติดต่อธนาคารดูอีกที....ทางที่สอง  ผู้จะขาย ผู้จะซื้อทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ต่อกัน  โดยระบุให้ชัดเจนว่า  ผู้จะซื้อรับผิดชอบผ่อนหนี้จำนองต่อไปจดหมด   และผู้จะขายต้องโอนที่ดินและบ้านให้เมื่อผ่อนหนี้จจำนองหมดแล้ว   ส่วนหนี้ส่วนต่างก็ต้องเจรจากันให้ลงตัวว่าจะชำระกันอย่างไร....สัญญาจะซื้อจะขาย ดูแบบได้ ในกูเกิ้ล  ก็สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาได้ตามความเหมาะสม   เอกสารแนบท้ายสัญญาได้แก่   สำเนาโฉนดที่ดิน ที่จะซื้อจะขาย  ที่คู่สัญญาลงลายมือชื่อรับรองไว้  และสำเนาบัตรประชาชน  สำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สัญญา ที่เจ้าตัวรับรองเอกสารแล้ว ควรกำหนดเบี้ยปรับไว้  ถ้ามีการผิดสัญญา   ถ้ากำหนดไว้ว่า  เมื่อมีข้อพิหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน ก็ยิ่งดี  และใครจะรับผิดชอบค่าฤชาธรรมเนียม ถ้าระบุไว้  ก็มีประโยชน์ สัญญาต้องทำสองฉบับ  เก็บไว้ฝ่ายละฉบับ  ถ้าให้ผู้รู้จริง ร่างสัญญาให้จะปลอดภัย ครับ

[มโนธรรม]

เมื่อมีข้อพิหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน .....แก้เป็น...เมื่อมีข้อพิหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน

[มโนธรรม]

เมื่อมีข้อพิหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน .....แก้เป็น...เมื่อมีข้อพิหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน

[มโนธรรม]

ก็ งง   เหมือนกัน  ต้องการแก้ไข ข้อความ  เมื่อแก้ไข  จนถูกต้องแล้ว  แต่กลับเป็นข้อความเดิม  คือตั้งใจ จะแก้เป็น   เมื่อมีข้อพหลอกลวงจะฟ้องที่ศาลไหน  ครับ

[มโนธรรม]

คำว่าข้อพิหลอกลวง   แก้ไม่ได้ซักที ขออภัยด้วย ครับ

[มโนธรรม]

ข้อพิหลอกลวง