หัวข้อ: ขอสอบถามเกี่ยวกับ สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ เริ่มหัวข้อโดย: PornphanT ที่ 09 มิถุนายน 2016, 02:59:58 pm ขอสอบถามว่า สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ ถือเป็นหน่วยงานราชการหรือไม่ คือมี พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐
ให้จัดตั้งขึ้น แต่คณะกรรมการเป็นเด็กในพื้นที่ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของทางราชการ อย่างนี้จะถือว่าเป็นหน่วยงานราชการหรือไม่ มีสภาพเป็นนิติบุคคลหรือเป็นกลุ่มบุคคล หรือ เป็นองค์กรชุมชน หัวข้อ: Re: ขอสอบถามเกี่ยวกับ สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ เริ่มหัวข้อโดย: มโนธรรม ที่ 10 มิถุนายน 2016, 01:04:03 am สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ
เป็นทั้งนิติบุคคล และไม่เป็นนิติบุคคล ตามกฎกระทรวงที่ยกมาข้างล่าง ครับ กฎกระทรวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชน หรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๕๓ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ “องค์กรเอกชน” หมายความว่า องค์กรที่มีวัตถุประสงค์ด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน และมิได้มีวัตถุประสงค์ในทางการเมืองหรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน และที่มิใช่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรอื่นของรัฐ “องค์กรชุมชน” หมายความว่า กลุ่มคนที่มีระบบการจัดการและมีสมาชิกรวมตัวกันจำนวนไม่น้อยกว่าสิบห้าคน จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนในสังคมหรือชุมชนร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์ด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน และมิได้มีวัตถุประสงค์ในทางการเมืองหรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน “ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หมวด ๑ การยื่นคำขอจดทะเบียนขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ข้อ ๒ องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ประสงค์จะยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ดำเนินกิจกรรมและมีผลงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนต่อเนื่องจนถึงวันยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหกเดือน (๒) มีที่ทำการตั้งอยู่ในเขตท้องที่ที่จะยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหกเดือน (๓) มีบุคลากรหรืออาสาสมัครในการปฏิบัติงานประจำหรือมีที่ปรึกษา โดยบุคคลดังกล่าวมีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน (๔) มีการกำหนดลักษณะหรือรูปแบบและวิธีการในการพัฒนาเด็กและเยาวชน เช่น การทำกิจกรรมโครงการด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน การให้ความรู้ กิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน การส่งเสริมการมีส่วนร่วม การส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องงานพัฒนาเด็กและเยาวชน (๕) มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา หรือองค์กรอื่นได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ข้อ ๓ ให้ผู้มีอำนาจทำการแทนองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน ยื่นคำขอจดทะเบียนตามแบบที่ผู้อำนวยการประกาศกำหนดพร้อมด้วยเอกสารหรือหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ (๒) สำเนาข้อบังคับ หรือตราสาร และสำเนาใบอนุญาตจัดตั้งองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๓) รายชื่อคณะกรรมการขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๔) สำเนางบดุลหรือสำเนารายงานฐานะการเงินขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๕) แผนงานโครงการขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๖) ผลการดำเนินงานในระยะเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือน (๗) เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงถึงการกำหนดลักษณะหรือรูปแบบและวิธีการในการดำเนินงานตามข้อ ๒ (๔) รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานในการส่งเสริมและสนับสนุนตามข้อ ๒ (๕) การยื่นคำขอจดทะเบียนตามวรรคหนึ่งจะยื่นคำขอด้วยตนเองหรือโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็ได้ ข้อ ๔ การยื่นคำขอจดทะเบียนตามข้อ ๓ ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครให้ยื่นคำขอต่อสำนักงาน สำหรับในเขตท้องที่จังหวัดอื่นให้ยื่นคำขอต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแห่งท้องที่ที่องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนนั้นตั้งอยู่ และให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่รับคำขอตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน แล้วส่งคำขอให้สำนักงานโดยไม่ชักช้า หมวด ๒ การยื่นคำขอจดทะเบียนขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคล ข้อ ๕ องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่มิได้มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ประสงค์จะยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (๑) ดำเนินกิจกรรมและมีผลงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนต่อเนื่องจนถึงวันยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหนึ่งปี (๒) ชื่อองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนต้องเป็นภาษาไทยและไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย (๓) จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน (๔) มีองค์ประกอบของคณะกรรมการ ประธานกรรมการ และสมาชิกขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่ชัดเจน และมีบุคลากรหรืออาสาสมัครในการปฏิบัติงานประจำหรือมีที่ปรึกษา โดยบุคคลดังกล่าวมีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน (๕) มีส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน รับรองผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน รวมทั้งเอกสารหลักฐานที่แสดงถึงผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน (๖) มีที่ทำการตั้งอยู่ในเขตท้องที่ที่จะยื่นคำขอไม่น้อยกว่าหนึ่งปี (๗) มีการกำหนดลักษณะหรือรูปแบบและวิธีการในการพัฒนาเด็กและเยาวชน เช่น การทำกิจกรรมโครงการด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน การให้ความรู้ กิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน การส่งเสริมการมีส่วนร่วม การส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องงานพัฒนาเด็กและเยาวชน (๘) มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา หรือองค์กรอื่นได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ข้อ ๖ ให้ผู้มีอำนาจทำการแทนองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน ยื่นคำขอจดทะเบียนตามแบบที่ผู้อำนวยการประกาศกำหนดพร้อมด้วยเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (๑) สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ (๒) สำเนาข้อบังคับหรือระเบียบขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๓) รายชื่อคณะกรรมการหรือคณะผู้ดำเนินการขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๔) สำเนารายงานฐานะการเงินซึ่งหัวหน้าผู้บริหารขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนนั้น ๆ ให้การรับรอง (๕) แผนงานโครงการขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน (๖) ผลการดำเนินงานในระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี (๗) เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงถึงการกำหนดลักษณะหรือรูปแบบและวิธีการในการดำเนินงานตามข้อ ๕ (๗) รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานในการส่งเสริมและสนับสนุนตามข้อ ๕ (๘) การยื่นคำขอจดทะเบียนตามวรรคหนึ่งจะยื่นคำขอด้วยตนเองหรือโดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็ได้ และให้นำความในข้อ ๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม หมวด ๓ การจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ข้อ ๗ ในการขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชน ถ้าได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในหมวด ๑ หรือหมวด ๒ แล้วแต่กรณี และแผนงานโครงการขององค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนนั้นไม่ขัดต่อกฎหมาย และมิได้มีวัตถุประสงค์ในทางการเมืองหรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้สำนักงานเสนอต่อปลัดกระทรวงเพื่อจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน และให้สำนักงานออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามแบบที่ผู้อำนวยการประกาศกำหนดให้แก่องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนนั้น องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วสามารถใช้ข้อความว่า “องค์กรเอกชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน” หรือ “องค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน” ในวงเล็บท้ายชื่อได้ ข้อ ๘ ในกรณีที่สำนักงานเห็นว่าการขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนนั้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในหมวด ๑ หรือหมวด ๒ แล้วแต่กรณี ให้สำนักงานแนะนำเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องครบถ้วนภายในสามสิบวัน ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าว ให้เสนอปลัดกระทรวงเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป ข้อ ๙ ในกรณีที่ปลัดกระทรวงไม่รับจดทะเบียน ให้สำนักงานแจ้งองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่ยื่นคำขอทราบ หรือกรณีในเขตท้องที่จังหวัดอื่นให้แจ้งต่อสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนั้น เพื่อแจ้งให้องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่ยื่นคำขอทราบต่อไป ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ อิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ บัญญัติให้องค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนที่มีกิจกรรมหรือผลงานเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน และมิได้มีวัตถุประสงค์ในทางการเมืองหรือมุ่งค้าหากำไรจากการประกอบกิจกรรมดังกล่าว มีสิทธิขอจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนหรือองค์กรชุมชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ |