หัวข้อ: ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ เริ่มหัวข้อโดย: jack39 ที่ 15 สิงหาคม 2014, 03:24:48 pm เรียน ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ /
เรื่องมีอยู่ว่า แม่แฟนมีพี่น้อง 4 คน (แม่แฟนผมคนที่ 3 ) โดยก่อนที่ตาจะเสีย ได้แบ่งสมบัติ เป็นที่ดินให้แต่ละคนเรียบร้อยแล้ว (มี โฉนด 2 แผ่นที่นำมาแบ่ง ดังนี้ #โฉนด 7 ไร่ 3 งาน แบ่งให้กับลูกคนที่1, 2 , 4 (ลูกคนที่1 ถือ) #โฉนด 3 ไร่แบ่งให้กับลูกคนที่ 3 (ลูกคนที่ 3 ถือ) รวมระยะเวลาการถือโฉนดเกิน 10 ปี แต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อให้ เพราะตาท่านได้เสียชีวิตก่อน ต่อมา ลูกคนที่4 ได้ขอแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก โดยลูกคนที่ 1-3 ได้ยินยอมเซ็นให้ โดยลูกคนที่ 4 อ้างว่าจะไปดำเนินการเรื่องที่ดินให้เรียบร้อย จึงทำให้ทุกคนเซ็นยินยอมให้ หลังจากเซ็นยินยอมและศาลไต่สวนแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเรียบร้อย ลูกคนที่ 4 ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ได้มาดำเนินการแบ่งที่ดินใหม่ โดยบังคับให้ลูกคนที่ 2 มาแบ่งที่ดินกับลูกคนที่ 3 ซึ่งถือโฉนด 3 ไร่ ส่วนตัวลูกคนที่4 ที่เป็นผู้จัดการมรดกได้ มาแบ่งที่ดินกับลูกคนที่ 1 ซึ่งถือโฉนด 7 ไร่ 3 งาน ในกรณี ถ้าทางลูกคนที่ 3 ไม่ยินยอมแบ่งที่ดินให้ เนื่องจากก่อนตาจะเสียชีวิตได้แบ่งไว้แล้ว แต่ลูกคนที่ 4 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกมาแก้ไขและทำให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์มากขึ้น แบบนี้เรา สามารถคัดค้านการเป็นผู้จัดการมรดก ได้หรือเปล่าครับ และหากทำได้มีวิธีและขั้นตอนยังไงบ้างครับ ??? ??? ??? หัวข้อ: Re: ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ เริ่มหัวข้อโดย: มโนธรรม ที่ 16 สิงหาคม 2014, 05:41:41 am โดยหลัก มรดกของตา ต้องแบ่งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน ก็คงประมาณ คนละ 3 ไร่เศษ....การแบ่งกันถือครอง ก็ถือว่า เป็นการแบ่งมรดกแล้วแบบหนึ่ง ดังนั้นบุตรคนที่ 3 จึงสามารถโต้แย้งการแบ่งปันของผู้จัดมรดกได้ตาม ปพพ. ม.1750 แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็จำเป็นต้องฟ้องศาล ให้ยุ่งยาก ใช้วิธีแบ่งเท่าๆกัน น่าจะสะดวกกว่า ครับ
ปพพ. มาตรา ๑๗๕๐ การแบ่งปัน ทรัพย์มรดกนั้น อาจทำได้โดย ทายาท ต่างเข้าครอบครอง ทรัพย์สิน เป็นส่วนสัด หรือ โดยการขาย ทรัพย์มรดก แล้วเอาเงินที่ขายได้ มาแบ่งปันกัน ระหว่าง ทายาท.... คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7667/2552 นับแต่วันที่ ส. ตาย ทายาทของ ส. คือโจทก์ จำเลย และ อ. ได้ครอบครองที่ดินทรัพย์มรดกเป็นส่วนสัด อันเป็นการแบ่งปันทรัพย์มรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 วรรคหนึ่ง แล้ว และถือได้ว่าการแบ่งปันมรดกเสร็จสิ้นแล้วนับแต่วันที่ได้มีการครอบครองเป็นส่วนสัด ...... หัวข้อ: Re: ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ เริ่มหัวข้อโดย: jack39 ที่ 16 สิงหาคม 2014, 10:48:26 am ขอบคุณมากครับพี่ :) :)
ข้อมูลเพิ่มเติม : ลูกคนที่1, 2 , 4 ก่อนหน้านี้ ได้รับที่ดินจาก ตา ไปกันก็หลายไร่แล้วครับแต่ก็ได้นำไปขาย ลูกคนที่ 1 ก็มีโฉนด 10 ไร่(แต่เป็น สปก.4-01) ที่ตาให้ไว้ ต่อมาก็นำไปเข้า จำนองกับ ธอส. พอเงินหมดก็เอาโฉนด 7 ไร่ 3 งาน ที่ต้องไว้ใช้แบ่ง ไปเข้ากับ ธอส. อีก ทำให้ลูกคนที่ 2, 4 ไม่สามารถแบ่งโฉนดกันได้ และบังคับให้แม่แฟนซึ่งเป็นลูกคนที่ 3 แบ่งที่ดินให้กับลูกคนที่ 2 โดยที่ ตาได้แบ่งให้ไว้แค่ 3 ไร่ ซึ่งน่าจะน้อยสุดแล้วในบรรดาพี่น้องทั้งหมด แต่สุดท้ายก็ยังมาจะแย่ง ผมกับแฟนเลยรู้สึกไม่เป็นธรรมต่อแม่ของเขา เลยอยากหาช่องทางอื่นๆ เพื่อไม่ให้เสียทีดินไปอีก เพราะลูกคนที่ 4 อ้างว่าถ้าไม่แบ่งก็ไม่โอนที่ 3 ไร่ให้ - เราสามารถฟ้อง ครอบครองปรปักษ์ ได้ไหมครับ เพราะถือครอบโฉนดนานกว่า 10 ปี โดยทุกคนรับรู้ว่าแม่แฟนเป็นเจ้าของและไม่มีใครโต้แย่ง หัวข้อ: Re: ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ เริ่มหัวข้อโดย: มโนธรรม ที่ 16 สิงหาคม 2014, 01:52:16 pm ที่ตอบว่าแบ่งคนละ 3 ไร่เศษนั้น ที่ถูกคือประมาณคนละ 2 ไร่เศษ....ดังที่ตอบข้างต้น ถือว่าการแบ่งมรดกได้จบลงแล้ว ดังนั้น จึงไม่ต้องมีการแบ่งปันมรดกกันอีก ถ้าผู้จัดการมรดกไม่ยอมโอนให้ ก็ ต้องฟ้องให้โอนให้ โดยอ้างเหตุตาม ปพพ. ม.1750 ดังกล่าว และสามารถอ้างการครอบครอบปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ได้เช่นกัน เพราะบุตรคนที่3 ครอบครองที่ดินในฐานะเจ้าของเกิน 10 ปี...คือฟ้องให้ผู้จัดการมรดกโอนให้ ตาม ปพพ. ม.1750 และได้กรรมสิทธิ์ โดยการครอบครองปรปักษ์ ไปในคราวเดียวกันได้ ซึ่งตามข้อเท็จจริง บุตรคนที่ 3 อยู่ในฐานะได้เปรียบในข้อกฎหมาย แต่การฟ้องร้องย่อมเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ถ้าสามารถเจรจาตกลงกันได้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ครับ
หัวข้อ: Re: ขอสอบถาม เรื่อง การขอถอนผู้จัดการมรดกครับ เริ่มหัวข้อโดย: jack39 ที่ 17 สิงหาคม 2014, 12:57:28 pm ที่ตอบว่าแบ่งคนละ 3 ไร่เศษนั้น ที่ถูกคือประมาณคนละ 2 ไร่เศษ....ดังที่ตอบข้างต้น ถือว่าการแบ่งมรดกได้จบลงแล้ว ดังนั้น จึงไม่ต้องมีการแบ่งปันมรดกกันอีก ถ้าผู้จัดการมรดกไม่ยอมโอนให้ ก็ ต้องฟ้องให้โอนให้ โดยอ้างเหตุตาม ปพพ. ม.1750 ดังกล่าว และสามารถอ้างการครอบครอบปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ได้เช่นกัน เพราะบุตรคนที่3 ครอบครองที่ดินในฐานะเจ้าของเกิน 10 ปี...คือฟ้องให้ผู้จัดการมรดกโอนให้ ตาม ปพพ. ม.1750 และได้กรรมสิทธิ์ โดยการครอบครองปรปักษ์ ไปในคราวเดียวกันได้ ซึ่งตามข้อเท็จจริง บุตรคนที่ 3 อยู่ในฐานะได้เปรียบในข้อกฎหมาย แต่การฟ้องร้องย่อมเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย ถ้าสามารถเจรจาตกลงกันได้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ^_^ |