แสงแดดนั้นมีคุณประโยชน์ต่อคนเรานานัปการ เป็นแหล่งพลังงานตามธรรมชาติ เป็นแหล่งวิตามินดี ป้องกันโรคมะเร็ง จิตเสื่อม และฟันผุ วิตามินดียังช่วยให้อวัยวะทำงานได้ตามปกติแสงแดด ทำให้ความรู้สึกและ อารมณ์ดีขึ้น ใครที่เคยไปอยู่เมืองนอกที่ไม่ค่อยพบเจอแสงแดด จะเข้าใจดีว่าจะมีอารมณ์เศร้าหดหู่และทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ แสงแดดใช้ฆ่าเชื้อโรค การถนอมอาหารด้วยการตาก เป็นวิธีการที่ง่ายและที่สำคัญแสงแดดได้ทำลายเชื้อแบคทีเรียในอาหารให้ด้วย
แต่แสงแดดไม่ได้มีแต่ประโยชน์แสงแดดยังมีโทษจากรังสี 2 ชนิด คือรังสียูวีเอ ซึ่งเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อ และดีเอ็นเอของเซลล์ผิว เข้าไปทำลายคอลลาเจน และความชุ่มชื้นผิว รังสียูวีบี ทำให้ผิวหนังแดงหรือไหม้เกรียม ตัวการของริ้วรอย ฝ้า กระ ความหมองคล้ำ และโรงมะเร็งผิวหนัง
การป้องกันผิวจากแสงแดดนั้นค่อนข้างจะทำได้ยากเนื่องจากรังสีในแสงแดดสามารถทะลุผ่านกระจกได้ นั่นก็คือแม้อยู่ในที่ร่มหรืออยู่ในบ้าน รังสีจากแสงแดด ก็ยังสามารถทำร้าย ผิวของเราได้ จึงได้มีวิวัฒนาการในการพัฒนา
ขี้กันแดดสำหรับผิวกายขึ้นมา มีจุดประสงค์เพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดทั้งกลางแจ้งและในที่ร่ม
ขี้กันแดดทาตัว จะออกแบบมาให้เนื้อบางเบา ซึมซาบรวดเร็ว เพื่อให้ใช้ทาผิวกายแล้วไม่รู้สึกถึงความเหนอะหนะ และสร้างความรำคาญใจ ทาได้ทุกวันแม้ไม่ใช่วันออกแดดก็ตาม สามารถปกป้อง ผิวกายจากรังสียูวีบีได้ถึง 98% (SPF 50) โดยใช้เทคโนโลยี Sun-Filter ช่วยให้ปกป้อง ผิวได้ยาวนานขึ้น ทั้งยังเป็นสูตรที่กันน้ำ ไม่ต้องกลัวว่าออกเหงื่อแล้วขี้กันแดดจะละลายหายไป สามารถนำไปใช้ทาผิวเพื่อทำกิจกรรมทางน้ำได้สบายๆ
เลือก
ขี้กันแดดทาตัวอย่างไรให้ปกป้องไวและ ปกป้องจริง
1. เลือกที่กันน้ำ
ขี้กันแดดสำหรับผิวกายที่กันน้ำได้นั้น จะช่วยลดปัญหาการเติมหรือทาขี้กันแดดซ้ำๆ ได้เพราะแสงแดดมาคู่กับความร้อน ความร้อนเรียกเหงื่อ หากไม่ใช่ขี้กันแดดทาตัวแบบกันน้ำ ขี้ก็จะค่อยละลายไปกับเหงื่อประสิทธิภาพในการป้องการแดดจะน้อยลงหรือหมดไป ความดำความหมองความคล้ำก็มาจะมาเยือนทันที
2. ทาขี้กันแดดก่อนสัก 20 นาทีก่อนออกแดด การใช้
ขี้กันแดดทาตัวให้ได้ผลดีควรที่จะทาขี้กันแดดอย่างน้อยสัก 20 นาทีหรือทาขี้กันแดดให้ซึมเข้าผิวก่อนจึงจะออกแดด
3. ใช้ขี้กันแดดที่มีค่า SPF 30ขึ้นไป สถาบันโรคผิวหนังของอเมริกาได้แนะนำให้ใช้ขี้กันแดดสำหรับผิวกายที่มี SPF 30 ขึ้นไป
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การออกแดดทำให้เราเสียเหงื่อ นั่นหมายความว่าน้ำใต้ผิวหนังลดลงไปด้วย การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยให้เติมเต็มผิวหนัง ช่วยปกป้องผิวหนังจากแดดได้อีกทางหนึ่ง
5. สวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย แม้เสื้อผ้าจะไม่สามารถกันรังสีจากแดดได้ 100% แต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง จำนวนรังสีที่ทะลุสู่ผิวน้อยกว่า ย่อมทำร้ายผิวได้น้อยกว่าจำนวนรังสีจำนวนมาก ๆ
6. ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ขี้กันแดดทุกครั้ง จำไว้ว่าผิวมีโอกาสแพ้ผลิตภัณฑ์ต่างๆได้เสมอ ดังนั้นก่อนใช้ขี้กันแดดควรทดสอบ ทาขี้กันแดดกับผิวบริเวณที่บอบบางก่อนทุกครั้ง
เลือกขี้กันแดดสำหรับผิวกายได้แล้ว อย่าลืมปฏิบัติตัวตามคำแนะนำด้วยน้า ขี้กันแดดจะได้ช่วยปกป้อง ผิวจากแดดได้อย่างเต็มที่
คุณลูกค้าสามารถดูรายละเอียดของสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://www.kiehls.co.th/th/body/sun-care.html หรือเข้าเว็บไซต์ได้ที่
https://www.kiehls.co.th
ผู้เขียน