trachu.com ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27 เมษายน 2024, 08:14:24 pm
หน้าแรก หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ กระดานข่าวตราชูดอทคอม ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย


+  TRACHU.COM : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
|-+  ชุมชนกฎหมาย
| |-+  ถามตอบปัญหากฎหมายสำหรับประชาชน (ผู้ดูแล: มโนธรรม)
| | |-+  ถูกร้านค้าโกงเรื่องชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ทรัพย์สินของเราเสียหายคะ‏
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถูกร้านค้าโกงเรื่องชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ทรัพย์สินของเราเสียหายคะ‏  (อ่าน 3472 ครั้ง)
poogo
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:06:36 pm »

สวัสดีคะ เรื่องราวมีดังนี้คะ

          ดิฉันอยู่สมุทรปราการและได้นำกล้องถ่ายรูปไปเปลี่ยนแผ่นฟิล์มกันรอยขีดข่วน ที่ร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์มือถือในห้างตัวเมืองกระบี่ โดยก่อนใช้บริการดิฉันถามเจ้าหน้าที่ของทางร้านแล้วว่าทำได้ไหม เขาตอบกลับว่าได้คะดิฉันจึงให้ทำ ( ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยใช้บริการแบบนี้มาแล้วกับร้านค้าในกรุงเทพฯ จึงรู้ขั้นตอนการทำที่ถูกมาบ้าง ) แต่เจ้าหน้าที่ที่นี่ทำงานเหมือนทำไม่เป็นคะ เพราะหลังจากใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดบนหน้าจอที่มีฟิลม์เก่าแปะอยู่ แล้วก็จะติดฟิลม์อันใหม่ทันทีโดยไม่ลอกของเก่าออก และดิฉันก็ได้แย้งกับเจ้าหน้าที่ไปว่าถ้าไม่เอาของเก่าออกและจะติดของใหม่ไปทำไม เจ้าหน้าที่จึงลอกฟิลม์เก่าออก ต่อมาจึงนำสก็อตเทปใสไปแปะตามหน้ากล้องที่เป็นเนื้อแท้ ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่มีปัญหาเพราะทุกร้านที่ใช้บริการแบบนี้เช่นกัน แต่เริ่มมีปัญหาเมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำผ้าที่เลอะน้ำยาทำความสะอาดจากครั้งแรกมาเช็ดถูลงบนหน้าจอ ซึ่งตรงนี้ดิฉันเริ่มชักเอะใจด้วยตามปกติไม่ว่าหน้าจอของอุปกรณ์ชนิดไหนทั้งโทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุค โดยเฉพาะกล้องห้ามลงน้ำยาเด็ดขาดยกเว้นน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะด้าน ( ตรงนี้เจ้าหน้าที่ในร้านค้ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเคยแนะนำมาคะในตอนที่ดิฉันเข้าไปใช้บริการ ) แต่เนื่องด้วยจากจุดที่ยืนอยู่จึงไม่สามารถเห็นสภาพกล้องตนเองได้ กระทั่งผ่านไปสักพักได้ยินเจ้าหน้าที่บ่นพึมพำว่ากล้องเลอะอะไรไม่รู้ แล้วก็ไปหากระดาษทิพชู่มาเช็ด สลับกับผ้าผืนเดิม จนผ่านไปซักพักก็ไปนำผ้าผืนใหม่มาเช็ด และจุ่มน้ำยาตัวเดิมลงไปเช็ดอีก จากนั้นก็ตามด้วยปลายเล็บที่นำไปขูดบนหน้ากล้อง ( ขั้นตอนนี้ผิดเต็มๆ คะ ) แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกกับดิฉันว่ากล้องพี่เป็นลอยอะไรไม่รู้แล้วก็เช็ดต่อไปอีกสักจึงส่งคืน พอดิฉันได้เห็นสภาพกล้องแล้ว จึงรีบถามหาร้านกล้องถ่ายรูปทันทีเพราะดิฉันก็ไม่รู้ว่ากล้องเป็นอะไรเหมือนกัน ( กล้องตัวนี้ดิฉันก็ยืมเขามาอีกทีดังนั้นเมื่อมีปัญหาดิฉันก็จำต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ) พอไปที่ร้านกล้องเจ้าหน้าที่ร้านกล้องดูแล้วถามว่าไปทำอะไรมาดิฉันจึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เขาจึงบอกว่าหน้าจอของกล้องมีสารบางอย่างเคลือบอยู่ได้หลุดหายไปจากการโดนเช็ดถูด้วยน้ำยา 


         ดิฉันกลับมาที่ร้านแจ้งให้พนักงานรับรู้และรับผิดชอบ และพวกเขาไม่ยอมรับผิดชอบโทษหาว่ากล้องของดิฉันไม่ดีเอง ดิฉันจึงไปแจ้งความแต่ตำรวจบอกให้ไกล่เกลี่ยกันก่อนถ้าตกลงกันไม่ได้ถึงรับแจ้ง และเขาก็ให้คนไปตามพนักงานมาคุยกันต่อหน้า ซึ่งทางนั้นยืนยันปฏิเสธพร้อมกับและพูดจากล่าวหาว่าดิฉันจะมาหากินกับพวกเขางั้นหรือ และเสนอให้กลับไปดูกล้องวงจรปิดที่ห้าง ทั้งเรียกร้องให้ดิฉันชดใช้ค่าเสียหายจากการที่ทำให้เขาเสียชื่อ เสียหน้า ร้านค้าเสียหาย เสียเวลาทำมาหากิน ดิฉันก็เลยท้าให้กลับไปดูกล้องวงจรปิดด้วยกันถ้าผิดก็ยินยอมชดใช้ ถึงตอนนี้คุณตำรวจบอกถ้าตกลงได้ก็ไม่ต้องกลับมาโรงพัก ถ้าไม่ได้ค่อยมาแจ้งความ แต่พอไปยังห้างที่เกิดเหตุกลับมีดิฉันคนเดียวกับเจ้าหน้าที่ของห้างที่ภายหลังทราบว่าเป็นตัวแทนจากทาง เจ้าของร้านฯ มารับทราบ และเซ็นเป็นพยาน และเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดเท่านั้น พนักงานที่เป็นต้นเหตุไม่ได้มาตามที่บอกไว้ หลังจากดิฉันส่งกล้องที่เป็นหลักฐานให้ดู ทางเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คกล้องวงจรปิดได้ยืนยันว่าเกิดจากน้ำยากัดแต่เขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ต้องส่งศูนย์ซ่อม ทางเจ้าหน้าที่ของห้างที่เป็นตัวแทนจึงติดต่อให้ดิฉันคุยกับเจ้าของฯ โดยตรง และทางเจ้าของร้านยินยอมรับผิดชอบต่อค่าซ่อมที่เกิดขึ้นตามบิล ดังนั้นดิฉันจึงไม่ได้กลับไปแจ้งความที่โรงพักอีก


        ในวันเกิดเหตุดิฉันได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรดังนี้.- เรื่องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการใช้บริการของร้าน...โดยจะส่งบิลค่าซ่อม มาแจ้งให้คุณ...เจ้าของร้านที่ยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลัง ทำขึ้นวันที่ 2 ก.พ. 56 ลงชื่อ ผู้เสียหาย ( ชื่อดิฉัน ) , ผู้รับผิดชอบค่าเสียหาย ( เฉพาะชื่อไม่มีนามสกุลเพราะทางเจ้าหน้าที่ของทางห้างก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ ), พยาน ( เซ็นด้วยลายมือของเจ้าหน้าที่ของห้างเอง ) โดยไม่มีเอกสารสำคัญเช่นบัตรประชาชนของเจ้าของร้านหรือของพยานกับกำไว้เป็น หลักฐาน จากนั้นได้ให้ตัวจริงที่ดิฉันเขียนไว้กับทางเจ้าหน้าที่ของห้างเพื่อให้เจ้า ของร้านฯ ต่อไป และก็มีถ่ายสำเนาฉบับหนึ่งให้ดิฉันเก็บไว้ โดยมีกำกับเซ็นสำเนาถูกต้องด้วยลายมือของพยาน 


           ตอนนี้กล้องซ่อมเสร็จและนำไปคืนเจ้าของแล้วพร้อมได้ยื่นบิลส่งเป็นเอกสารไปให้ทางเจ้าของร้านมือถือที่รับปากจะชำระค่าเสียหายให้ และดิฉันได้โทรไปแจ้งให้เจ้าของร้านทราบ พร้อมแอบอัดคลิปการสนทนาไว้เป็นหลักฐานเผื่อมีปัญหา ( ตอนแรกไม่ได้อัดคลิปใดๆ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์และโทรศัพท์มือถือเป็นของพนักงานห้าง ) และต่อมาดิฉันก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านมือถือได้อีกเลย ติดต่อไปที่ห้างเพื่อขอนามสกุลเจ้าร้านมือถือ เจ้าหน้าที่ของห้างที่เป็นพยานในวันนั้นก็บ่ายเบี่ยงตลอด แต่ทุกการสนทนาดิฉันอัดคลิปไว้หมดพร้อมแจ้งให้เจ้าตัวทราบถึงการอัดคลิป


           ทีนี้ดิฉันอยากถามว่าถ้าดิฉันไม่สามารถติดต่อเขาได้โดยตรงแบบนี้ แล้วดิฉันต้องการใช้ข้อความต่อไปนี้ ลงในสื่อใดสื่อหนึ่งที่เป็นสื่อสาธารณะ อาทิ vdo youtube facebook วิทยุชุมชนกระบี่ เป็นต้น จะถือเป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ เพราะช่องทางที่จะสื่อสารถึงเจ้าตัวโดยตรงไม่มีอีกแล้วทำทุกวิธีแล้วคะ ยกเว้นเดินทางไปกระบี่อีกครั้ง ( ซึ่งอันนี้ฉันทำไม่ได้ต้องทำงาน ไหนจะค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางอีก อีกทั้งไม่มั่นใจในความปลอดภัยด้วยคะ )


            "ถึงคุณไชยาเจ้าของร้านมือถือสตารโฟน ด้วยความคิดถึงฉันพยายามหาทางติดต่อไปยังคุณ แต่ไม่ว่าจะติดต่อไปโดยตรงหรือทำอย่างไรก็ไร้ซึ่งการตอบกลับ ฉันไม่รู้ว่าข้อความทุกครั้งที่ส่งไปคุณจะได้รับรู้หรือไม่ ฉันปราถนาเป็นอย่างยิ่งให้คุณเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับรู้ความรู้สึกของฉัน รับรู้ถึงความคิดถึงที่มันเป็นเสียงสะท้อนอยู่เพียงในใจว่า "คุณยังจำสัญญารับผิดชอบในวันนั้นที่ให้กับฉัน ในห้างระแวกถนนคนเดินเมืองกระบี่ได้ไหม เวลาร่วงเลยมามากพอแล้ว กรุณาช่วยดำเนินการชำระค่าความเสียหายที่ฉันได้รับจากการเข้าใช้บริการที่ร้านมือถือสตารโฟนมาด้วยคะ" 

            ถ้าดิฉันถูกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทจำเป็นต้องขึ้นศาลหรือติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดิฉันต้องไปที่ไหนในกระบี่หรือกรุงเทพคะ และสามารถอ้างว่าไม่ได้สื่อสารต่อบุคคลที่สามได้หรือไม่เพราะจุดมุ่งหมายนั้นเน้นย้ำที่คนคนเดียว "ฉันปราถนาเป็นอย่างยิ่งให้คุณเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับรู้ความรู้สึกความคิดถึงของฉัน" แม้จะเลือกใช้โดยผ่านสื่อสาธารณะ แต่สื่อทุกสื่อก็นับเป็นช่องทางสื่อสารอีกช่องที่ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ และจากประโยคที่ว่า "รับรู้ถึงความคิดถึงที่มันเป็นเสียงสะท้อนอยู่เพียงในใจว่า "คุณยังจำสัญญา..... กรุณาช่วยดำเนินการ...." เป็นการอ้างว่าเราไม่ได้พูดออกเป็นวาจาหากเป็นเพียงเสียงสะท้อนที่อยู่ในใจของเรา ที่ทวงถามถึงสัญญาความรับผิดชอบจากความผิดพลาดในการทำงานของคู่กรณีจนทรัพย์สินเราเสียหาย ตามที่คู่กรณีเคยสัญญาให้ไว้ได้หรือไม่ รวมถึงการท้าวความถึงที่มาของการชดใช้ "ความเสียหายที่ฉันได้รับจากการเข้าใช้บริการที่ร้านมือถือสตารโฟน" และ โดยทั้งหมดนี้สามารถเข้าค่ายมาตรานี้ไหมคะ มาตรา329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต (1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม   
         
             และในทางกฏหมายดิฉันมีวิธีใดบ้างที่จะบีบให้เขาชดใช้ค่าเสียหายได้คะ แต่ถ้าให้ไปแจ้งความถึงกระบี่คงไม่ไหวคะ และถ้าเกิดค่าใช้จ่ายขี้นดิฉันมีสิทธิ์เรียกร้องให้เขาเราผิดชอบด้วยได้หรือไม่คะ
       
             ขอบคุณคะ
บันทึกการเข้า
ทนายเจม
ผู้ดูแลระบบ
รุ่นใหญ่
*

ค่าพลัง: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 10:47:16 pm »

กรณีหากมีการทำบันทึกชดใช้ค่าเสียหายซึ่งลงนามโดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าของร้าน(ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเจ้าของจริงหรือไม่)แล้ว และ หากบุคคลดังกล่าวเพิกเฉย ท่านมีสิทธิฟ้องร้องคดีผู้บริโภคเพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเจ้าของร้านดังกล่าวครับ

ในส่วนที่ท่านประสงค์จะลงข้อความตามเวปต่างๆ นั้น ผมไม่แนะนำให้ทำครับ ควรดำเนินการตามกฎหมายที่แนะนำไปข้างต้นครับ
บันทึกการเข้า


ชุมชนบริสุทธิ์ ยุติธรรม : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
poogo
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #2 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 01:56:37 pm »

        การบันทึกไม่ได้ลงนามโดยรายมือโดยตรงของผู้รับผิดชอบ ( เจ้าของร้านคะ ) แต่มีรายมือของพยาน ( เจ้าหน้าที่ของห้างที่ร้านนี้เช่าพื้นที่อยู่ ) เซ็นรับรู้เรื่องราวที่กำกับไว้ ( หากการสนทนาที่เจ้าของร้านยินดีรับผิดชอบไม่ได้ทำการอัดเสียงเนื่องจากเป็นโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ห้าง ) จากนั้นเมื่อกลับมากรุงเทพฯ ดิฉันได้ติดต่อไปยังเจ้าของร้านอีกครั้ง และได้บันทึกเสียงจากโทรศัพท์มือถือ โดยมีเนื้อหาอ้างอิงถึงทรัพย์สินที่เสียหายและคำสัญญาที่ทางผู้รับผิดชอบได้ให้ไว้ รวมถึงบิลเรียกเก็บค่าซ่อมด้วยคะ ซึ่งเจ้าของร้านก็เอ่ยปากรับรู้ถึงสัญญารับผิดชอบแล้วให้ส่งเลขที่บัญชีของดิฉันที่ให้โอนเงินเข้าผ่าน sms และจากนั้นดิฉันก็ติดต่อเจ้าของไม่ได้อีกเลย จึงโทรไปหาพยานในวันนั้น ( เจ้าหน้าที่ห้าง ) และมีการพาดพิงถึงเจ้าของร้านในเรื่องที่เกิดขึ้น อันนี้ใช้เป็นหลักฐานได้ไหมคะ
        
        ถ้าฟ้องร้องคดีผู้บริโภคต้องไปฟ้องร้องที่ไหนกับใครคะ และต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือมีอายุความเท่าไหร่คะ และค่าใช้จ่ายตามจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยไม่มีในบิลสามารถเรียกร้องได้ไหมคะ ( ในเบื้องต้นก็ค่าโดยสารที่ไปติดต่อกับศูนย์ซ่อม ค่าโทรศัพท์ ค่าจัดส่งเอกสาร ( บิลค่าซ่อมที่เจ้าของร้านระบุให้ส่งผ่านทางไปรษณีย์คะ ) ซึ่งคราวแรกตอนตกลงกับเจ้าของร้านดิฉันขอแค่ให้เขาชดใช้ค่าซ่อมก็พอ แต่พอเจ้าของร้านติดต่อไม่ได้ดิฉันต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดต่อหาพยานห้างและเสียเวลาค่อนข้างมาก จึงอยากเรียกร้องกับความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ไหมคะ

        ถ้าศาลมีคำสั่งให้เจ้าของร้านชดใช้แต่ทางร้านไม่ชดใช้จะเกิดอะไรขึ้นคะ เพราะร้านค้าที่เกิดเหตุกับดิฉันอยู่กันคนละเขตและค่อนข้างไกล
    
        ขอบคุณคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มีนาคม 2013, 02:12:02 pm โดย poogo » บันทึกการเข้า
ทนายเจม
ผู้ดูแลระบบ
รุ่นใหญ่
*

ค่าพลัง: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 30 มีนาคม 2013, 09:21:07 pm »

หลักฐานที่ท่านส่งมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินคดีได้ครับ สำหรับส่วนของการอัดเสียงก็ใช้ประกอบได้ เพียงแต่ว่าเมื่อถึงขั้นต้องดำเนินคดี ทางเจ้าของร้านอาจปฏิเสธว่าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น หรือ ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำให้ท่านเสียหาย แต่ท่านสามารถนำพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ไปยืนยันได้

อย่างไรก็ดี ในการดำำเนินคดีผู้บริโภค กรณีท่านเป็นผู้บริโภคฟ้องผู้ประกอบการ ท่านสามารถยื่นฟ้องได้ที่ศาล ณ สถานที่เกิดเหตุ หรือ ภูมิลำเนาของผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ ในการฟ้องคดี เท่าที่ดูแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี โดยเฉพาะค่าพาหนะจำนวนมาก เกรงว่าท่านจะเสียหายยิ่งขึ้นไปอีก
ผมแนะนำว่าหากร้านดังกล่าวเป็นตัวแทนของผู้ผลิตสินค้า ผมแนะนำให้ติดต่อผู้ผลิตสินค้า เพื่อให้ช่วยเหลือในการติดต่ออีกทางหนึ่งครับ
บันทึกการเข้า


ชุมชนบริสุทธิ์ ยุติธรรม : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
poogo
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #4 เมื่อ: 04 เมษายน 2013, 08:17:21 pm »

ขอบคุณคะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 18 คำสั่ง