trachu.com ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29 เมษายน 2024, 03:45:51 am
หน้าแรก หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ กระดานข่าวตราชูดอทคอม ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย


+  TRACHU.COM : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
|-+  ชุมชนกฎหมาย
| |-+  ถามตอบปัญหากฎหมายสำหรับประชาชน (ผู้ดูแล: มโนธรรม)
| | |-+  ออกเงินสร้างบ้านบนที่ดิน แต่โสดเลยโอนเป็นชื่อแม่ เมื่อแม่ตาย ผจก.มรดกจะยึดบ้าน?
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ออกเงินสร้างบ้านบนที่ดิน แต่โสดเลยโอนเป็นชื่อแม่ เมื่อแม่ตาย ผจก.มรดกจะยึดบ้าน?  (อ่าน 3675 ครั้ง)
เรือนดอกรัก
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« เมื่อ: 19 ธันวาคม 2013, 07:12:11 pm »

เป็นบุตรสาวคนเดียวของแม่กับพ่อที่ตายไป พ่อมีลูก 2 คน ต่อมาแม่จดทะเบียนกับพ่อใหม่ ไม่ถูกกันกับพ่อใหม่จึงออกจาก กทม.ไปทำงานที่จ.เชียงใหม่ พี่ชายหนูก็แยกครอบครัวออกไป
 ที่เชียงใหม่หนูได้ยื่นกู้ซื้อที่ดินและสร้างบ้านเอง ออกแบบจ้างช่างเอง แม่เข้าช่วยเหลือบ้างโดยลงชื่อกู้ร่วม และช่วยเป็นบางครั้งจนผ่อนบ้านเสร็จตลอด 20 ปี ก็อาศัยคนเดียวมาตลอด แม่ช่วยเพราะเห็นใจและรู้ว่าไม่ถูกกันกับพ่อใหม่และไม่เคยเรียกร้องการเลี้ยงดูใดๆ จึงไม่อยากให้หนูเช่าบ้าน และรู้สึกว่าเป็นความผิดทำให้หนูต้องออกจากบ้านมา  ( ช่วงนั้นพ่อใหม่มีลูก 2 คน) ด้วยความที่หนูโสด เผื่อเป็นอะไรไป (มีอุบัติเหตุหนักหลายครั้ง) จึงให้ชื่อโฉนดเป็นชื่อแม่แม้แม่ไม่ต้องการ แต่ชื่อเจ้าบ้าน ทะเบียนบ้านเป็นตัวหนูเองค่ะ (หนูอายุ 45 แล้ว)
    ต้นปี 2556 แม่เสียชีวิต พ่อใหม่แจ้งในงานศพว่าว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมรดก แต่จะให้กับทางเรา 2 คนร่วมกับลูกเค้า2คนแบ่งกัน(ดูดี) ทุกคนจึงได้เซ็นยินยอมให้เป็น ผจก.มรดก พ่อใหม่กับน้องฝ่ายเค้า ได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากธุรกิจหอพักและอยู่อาศัยในที่บ้านกรุงเทพซึ่งเป็นบ้านมรดกของแม่จากคุณยาย ก็คิดว่าไม่มีอะไร ต่างคนต่างอยู่ เราก็ไม่เคยเรียกแบ่งมรดกอะไร เพราะเห็นว่าเค้าลาออกจากงานทั้งหมด และเอาเงินจากธุรกิจแม่ใช้ได้ ละแวกบ้านก็มีน้าๆหลายคนที่อยู่ใกล้เคียงกันอยู่แล้วดูแลกันได้ คือให้อยู่กันเอง 3 คนพ่อลูก     
     ต่อมาเดือนธันวา2556 พ่อใหม่และลูก 2 คนนั้นทะเลาะกับน้าๆแบบไม่เผาผีกันเพราะความประพฤติของพ่อใหม่และน้องสองคน ไม่ดีนัก แถมจะขายที่ส่วนของแม่ที่เป็นมรดกยาย ทำให้น้าๆไม่เห็นด้วยเพราะอยู่กันมาตั้งแต่เกิด   เมื่อถูกขัดก็พาลและก้าวร้าว ระหองระแหงกัน สุดท้ายคาดว่าคงอยากย้ายเพราะอยู่ด้วยความอึดอัด จึงโทรแจ้งหนูให้ย้ายของจากบ้านเชียงใหม่ เค้าแจ้งว่าจะขายบ้าน (แต่หนูรู้ว่าเค้าอยากได้มานาน แม่เคยห้ามไม่ให้มายุ่งกับบ้านนี้ก่อน)...หนูตกใจมาก ขอให้มีการประชุมทายาททั้งหมดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วร่วมกัน ลูกติดเค้าสองคนกับตัวเค้าหาว่าเราโกงจะฮุบ ทั้งๆที่หนูไม่เคยทำอะไรให้เลย ถามเหตุผลก็ตอบไม่ได้ จะเอาบ้านท่าเดียว
**
คำถามค่ะ?ฮืม
1. เค้าอ้างว่านี่คือสินสมรส เค้าจะยึด ให้ค่าบ้านพร้อมที่ดิน 109 ตรว.เพียง 1 แสน แล้วออกไป หากขายได้เมื่อไหร่ค่อยมาเอาส่วนปันมรดก โดยอ้างว่าแม่เคยให้เงินมาช่วยค่าผ่อนบ้าน (แต่ตอนคืนเงินแม่ เค้าบอกไม่รู้เรื่อง) หนูสร้างบ้านปูนหลังใหญ่ 1 แสนนี่แค่ค่ารั้วคอนกรีตกับประตูหน้าบ้าน  ถ้าไม่ออกก็จะยกข้าวของทั้งตู้ เฟอร์ เตียงนอน อีกสี่หลังออกไว้ทิ้งหน้าบ้าน   ตอนนี้หนูมีแบบพิมพ์เขียวบ้านตอนสร้าง เอกสารการกู้ ชื่อที่อยู่บัตรประชาชนก็อยู่ที่นี่มา 20 ปี ชาวบ้านใกล้เคียงก็รู้  หนูเสียใจมากที่ใส่ชื่อแม่เป็นเจ้าของทั้งๆที่การติดต่อทั้งหมดเป็นเราทำ  แบบนี้หนูต่อสู้ได้อย่างไรบ้างคะ... ค่าบ้านที่หนูสร้างจะได้คืนหรือไม่หากพ่อใหม่บังคับเป็นสินสมรสและมีอำนาจ ผจก.มรดก

2. น้าๆรู้ว่านี่คือบ้านหนูมาตลอด เค้าบอกไม่ต้องย้าย บ้านที่แม่อยู่ก็เป็นสินส่วนตัวแม่ก่อนจดกับเค้า เค้าเอาไม่ได้เลยพาล ระรานไปทั่ว
3. น้าบอกว่าเค้าแอบไปโอนชื่อบ้านเชียงใหม่เป็นของตัวเองแล้ว(หนูไม่เคยรู้)  ตอนประชุมเค้าก็พูดแต่บ้านกูๆ คุณไม่มีสิทธิ์แล้ว เค้าพยายามตัดหนูออกจากมรดกเมื่อรู้ว่าได้ผลประโยชน์น้อยลง
4. ลูกพ่อคนเก่าอย่างหนูเสียใจ ช้ำใจมากๆ บรรดาน้าๆให้หนูสู้ อย่ายอม หนูจะเริ่มต้นอย่างไร
5. หนูทิ้งกุญแจบ้านให้แม่ 1 ชุด เราจะป้องกันคุ้มครองบ้านนี้ก่อนที่เค้าจะมายึดครองได้อย่างไร นอกจากเปลี่ยนกุญแจ ต้องแจ้งใคร ทำอย่างไรคะ?
ขอบพระคุณทุกความเห็นค่ะ อายจัง
บันทึกการเข้า
มโนธรรม
รองผู้ดูแลระบบ
รุ่นเก๋า
*

ค่าพลัง: +13/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 811


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2013, 01:42:01 pm »

1.ก็เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในชีวิต   ที่คุณไปโอนที่ดินที่ปลูกบ้านให้แม่  ผลก็คือเมื่อแม่เสียชีวิต  ที่ดินและบ้านจะกลายเป็นมรดก  ซึ่งคุณมีภาระต้องพิสูจน์ว่า  คุณเพียงให้แม่ถือกรรมสิทธิ์แทน  แต่น่าจะพิสูจน์ได้ลำบาก  หรือบ้านนี้เป็นสินส่วนตัวของแม่   แม้จะพิสูจน์ได้   พ่อใหม่และน้องใหม่สองคนเขาก็มีสิทธิแบ่งปันมรดกอยู่ดี  ถ้าก่อนโอน  คุณได้ปรึกษาผู้รู้ก่อน  จะมีประโยชน์ ไม่ต้องมาตกเป็นผู้เสียเปรียบอย่างไม่น่าให้อภัยตนเอง ครับ
2.   ก็ควรอยู่ในบ้านไม่ต้องย้ายออก  ถ้าพ่อใหม่ทำการในฐานะผู้จัดการมรดกโดยมิชอบ  ก็สามารถร้องศาลให้ถอดถอนได้ เช่น   ไม่ทำบัญชีทรัพย์มรดก  ไม่มีการประชุมทายาท  และไม่แบ่งมรดกโดยชอบ  ควรมีทนายความเป็นที่ปรึกษา ครับ
3.  เขาคงโอนให้เป็นของผู้จัดการมรดก   แต่ต้องนำมาแบ่งทายาทอีกที   ถ้าเขามีเจตนา ไม่แบ่งทายาท  ก็เข้าข่ายยักยอกมรดก  ซึ่งมีโทษทางอาญา ครับ
4.  ที่ต้องเสียใจเพราะคุณ  ไม่ปรึกษาผู้รู้ก่อน  ซึ่งในสังคมยุคใหม่สามารถเข้าถึงนักกฎหมายที่เก่งๆของเมืองไทยได้โดยไม่ยากเย็น   แต่คุณมองข้ามไป ครับ
5.  ควรแจ้งให้พ่อใหม่  ในฐานะผู้จัดการมรดก  ทำบัญชัทรัพย์มรดก  และประชุมทายาทเพื่อแบ่งมรดกให้ถูกต้อง    ถ้าเขาตุกติก  ก็ควรฟ้องถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ ครับ
บันทึกการเข้า
เรือนดอกรัก
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #2 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 07:06:04 am »

ขอบพระคุณคุณ มโนธรรมมากค่ะ
1.  ปัญหาที่ไม่ได้ปรึกษาทนายเกิดจากความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูกที่เป็นผู้หญิงคนเดียวค่ะ ไม่นึกว่าจะกลายเป็นชนวนปมขัดแย้งในครอบครัว เสียใจผิดหวังในการแย่งชิง มากกว่าความรู้สึกอื่น
2.  เมื่อความรู้สึกเสียไป จึงต้องเริ่มต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เกิดจากการถูกรังแก หนูเริ่มที่นี่เป็นที่ปรึกษาค่ะก่อนที่จะสู้ต่อ
สรุปว่า หนูต้องเริ่มด้วยการขอบัญชีแสดงทรัพย์สินจัดการมรดก  ถ้า
      2.1  แจ้งไปเค้าไม่ทำ ไม่มี ..... หนูทำอย่างไรต่อคะ เค้าต้องแสดงนี่มีกำหนดเวลาเท่าไหร่
      2.2  วิธีแจ้ง  เป็นหนังสือหรือไม่คะ

3. ป่วยกายหาแพทย์ ป่วยความหาทนาย  ตอนนี้หนูเป็นผู้เจ็บป่วย อ่อนแอ จึงหวังพึ่งพาบอร์ดนี้พยุงจิตใจก่อนค่ะ ความผิดพลาดเกิดมาแล้วก็จริง แต่หนูก็พร้อมสู้ จะไม่ผิดพลาดเสียใจซ้ำอีกในครั้งนี้ ชีวิตไม่เคยพึ่งพาศาล ทนาย ถึงไปไม่เป็นเลยค่ะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจและช่องทาง
 ติดใจอยู่นิดค่ะ "ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวง" จากข้อเท็จจริงที่บอกให้ฟัง ยังมีช่องทางเยียวยาในเชิงเทคนิคทนายบ้างมั๊ยคะ หรือต้องเสียบ้านอย่างเดียว
บันทึกการเข้า
มโนธรรม
รองผู้ดูแลระบบ
รุ่นเก๋า
*

ค่าพลัง: +13/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 811


« ตอบ #3 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 04:56:19 pm »

ใช้วิธีแจ้งเป็นหนังสือ ให้ผู้จัดการมรดก ทำบัญชีทรัพย์มรดกที่มีผู้มีส่วนได้เสียลงลายมือชื่อเป็นพพยาน อย่างน้อยสองคน ให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งเดือน นับแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก   ถ้าเขาเพิกเฉยก็ใช้เป็นเหตุฟ้องถอดถอนจากผู้จัดการมรดกได้  คงต้องหาทนายที่น่าไว้วางใจช่วยเหลือ ครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.027 วินาที กับ 19 คำสั่ง