trachu.com ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29 เมษายน 2024, 10:51:06 am
หน้าแรก หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ กระดานข่าวตราชูดอทคอม ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย


+  TRACHU.COM : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
|-+  ชุมชนกฎหมาย
| |-+  ถามตอบปัญหากฎหมายสำหรับประชาชน (ผู้ดูแล: มโนธรรม)
| | |-+  ยักยอกทรัพย์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ยักยอกทรัพย์  (อ่าน 7519 ครั้ง)
Pitchayasine
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4


« เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2011, 01:35:57 pm »

เรื่องมีว่า ....... ดิฉันได้ทำหนังสือสัญญยืมเงินจำนวน สามแสนบาท โดยใช้รถเป็นนหลักทรัพย์คำประกันไว้ โดยยังไม่โอนชื่อมาเป็นของดิฉัน แต่เป็นของบริษัทไปก่อน ต่อมาได้คืนแล้วยังไม่ไทนโอน ยืมเอง สรุปก็ยังไม่ได้โอน แต่ในสัญญา ไม่ได้ระบุว่าจะคืนวันไหนอย่างไร แต่จะเร่งดำเนินการให้โดยการผ่อนชำระ เป็นรายเดือน แต่ขาดส่งไม่ได้ผ่อนเลย ต่อมาทางบริษัท ได้มาเจรจาจะขอยึดรถคืนแต่ดิฉันบอกไม่ได้หรอก จากนั้นประมาณสองเดือน จนวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาขอนัดเจรจา โดยแจ้งว่าเขากล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ ทั้งๆที่ทราบมีเอกสารแสดงว่าเป็นการยืมเงิน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้คะ
แล้ววันที่เจรจาเราไม่ส่งมอบจะทำยังไงคะ
บันทึกการเข้า
ทนายเจม
ผู้ดูแลระบบ
รุ่นใหญ่
*

ค่าพลัง: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2011, 09:49:48 pm »

เท่าที่ฟังถือไม่ได้ว่านำรถมาคํ้าประกันหนี้เงินกู้ยืม เพราะการที่จะถือว่านำรถมาจำนำหนี้เงินกู้ยืม นั้น คุณต้องส่งมอบรถให้กับบริษัทที่เป็นเจ้าหนี้ ให้ยึดไว้เป็นหลักประกันหนี้จนกว่าจะชำระหนี้ทั้งหมด

ส่วนรถแม้ว่าจะมีชื่อบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หากคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง คุณสามารถทวงถามให้บริษัทฯ จดทะเบียนโอนใส่ชื่อคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หากบริษัทฯ ไม่ดำเนินการ คุณสามารถฟ้องศาลได้

ส่วนเรื่องหนี้เงินกู้ยืม หากชำระหมดแล้ว ควรเก็บหลักฐานให้ชัดเจน

บันทึกการเข้า


ชุมชนบริสุทธิ์ ยุติธรรม : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
noi304
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4



« ตอบ #2 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2011, 07:06:36 pm »

เรื่องมีว่า ....... ดิฉันได้ทำหนังสือสัญญยืมเงินจำนวน สามแสนบาท โดยใช้รถเป็นนหลักทรัพย์คำประกันไว้ โดยยังไม่โอนชื่อมาเป็นของดิฉัน แต่เป็นของบริษัทไปก่อน ต่อมาได้คืนแล้วยังไม่ไทนโอน ยืมเอง สรุปก็ยังไม่ได้โอน แต่ในสัญญา ไม่ได้ระบุว่าจะคืนวันไหนอย่างไร แต่จะเร่งดำเนินการให้โดยการผ่อนชำระ เป็นรายเดือน แต่ขาดส่งไม่ได้ผ่อนเลย ต่อมาทางบริษัท ได้มาเจรจาจะขอยึดรถคืนแต่ดิฉันบอกไม่ได้หรอก จากนั้นประมาณสองเดือน จนวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาขอนัดเจรจา โดยแจ้งว่าเขากล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ ทั้งๆที่ทราบมีเอกสารแสดงว่าเป็นการยืมเงิน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้คะ
แล้ววันที่เจรจาเราไม่ส่งมอบจะทำยังไงคะ


ยังไม่เข้าใจกับคำถามเลยครับ ( ขอเป็นภาษาอิสานได้มั้ย อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม  ล้อเล่นครับ )  ยิ่งอ่านผมยิ่งงง  ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
mick
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #3 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2011, 02:31:44 pm »

 อายจัง สวัสดีค่ะ  ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาก เนื่องจากโดนคดียักยอกทรัพย์ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนที่เรื่องจะถึงตำรวจทางนายจ้างได้นำหลักฐานที่ว่าฉันยักยอกไปเป็นจำนวนเงิน120000มาแสดง ฉันได้นำเงินมาจ่ายเก้าหมื่น(เพราะตอนนั้นหาได้เท่านั้น) ที่เหลือขอผ่อนผันไว้ก่อนรอเวลาหาเงินแต่พอเรื่องถึงตำรวจทางตำรวจกลับแจ้งว่ายังเป็นเงินเท่าเดิมอยู่ฉันเลยขอดูหลักฐานที่เขาใช้ในการแจ้งความ ปรากฎว่าเป็นหลักฐานเดิมที่ให้ดูตอนจ่ายเก้าหมื่นเลยเรียกนายจ้างมาคุยเขาบอกฉันว่าเก้าหมื่นเป็นยอดเก่า แสนสองเป็นยอดใหม่ ฉันเลยถามว่ายอดเก่าอันไหนเพราะตอนที่เกิดเรื่องก็มีแค่ยอดนี้เขาบอกว่าคนที่ไปเก็บเงินบอกว่าเอาเงินมาให้ฉันแล้วซึ่งตอนนั้นฉันงงมาก ถามไปถามมาสรุปว่ามันคือยอดเงินที่ไม่มีเข้าบัญชี หาคนรับผิดชอบไม่ได้เลยมาลงที่ฉัน เพราะตามหลักแล้วด้วยหน้าที่ฉํนต้องรับผิดชอบ(เสมียน)แต่มันไม่มีลายเซ็นฉันนะคะฉันบอกเขา เขาตอบว่าถ้าฉันรู้ตัวคนเอาไปให้ฉันไปตามเอากับคนนั้นเองแต่ตอนนี้เขาจะเอาที่ฉัน แล้วใครเขาจะยอมรับล่ะคะ เดำกระด้าง เน่า เละ เฟะ่าเขาไม่หลักฐานในส่วนนั้นก็จริงแต่เขามีพยาน ก็คนที่ไปเก็บเงินล่ะค่ะ  สรุปก็คือเงินเก้าหมื่นแรกที่ให้ไปฉันใช้หนี้ของคนอื่นค่ะ ฉันเลยเรียกพยานคนเดียวที่ฉันมีอยู่(เพราะพวกนั้นยังทำงานอยู่)มาคุยเพราะเขายืนยันว่าคนที่ไปเก็บเงินมาเอามาให้เขายืม ฉันถามว่าจ่ายหนี้คนนั้นไปหรือยังเขาบอกจ่ายบางส่วนแล้วฉันเลยบอกว่าเงินส่วนนั้นฉันได้รับผิดชอบนะถ้าเอาไปจ่ายเขาแล้วเท่ากับว่าเขาได้เงินใช้ฟรีคนใช้หนี้คือฉัน  น้องเขาเลยจะไปถามเงินคืนเพื่อมาจ่ายฉันแทน ปรากฎว่าพอไปถึงสามีของเขากลับเดินออกมาทำร้ายร่างกายน้องคนนั้น(ก่อนที่จะเข้าไปน้องเขาโทรเข้าไปก่อน)ก็ต้องไปแจ้งความที่โรงพัก
ชั้นควรจะทำไงดีคะตอนนี้สับสนไปหมดช่วยแนะนำทีค่ะ ตอนนี้ห่วงลูกมาก
บันทึกการเข้า
มโนธรรม
รองผู้ดูแลระบบ
รุ่นเก๋า
*

ค่าพลัง: +13/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 811


« ตอบ #4 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2012, 12:29:18 pm »

สวัสดีค่ะ  ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่สบายใจมาก เนื่องจากโดนคดียักยอกทรัพย์ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนที่เรื่องจะถึงตำรวจทางนายจ้างได้นำหลักฐานที่ว่าฉันยักยอกไปเป็นจำนวนเงิน120000มาแสดง ฉันได้นำเงินมาจ่ายเก้าหมื่น(เพราะตอนนั้นหาได้เท่านั้น) ที่เหลือขอผ่อนผันไว้ก่อนรอเวลาหาเงินแต่พอเรื่องถึงตำรวจทางตำรวจกลับแจ้งว่ายังเป็นเงินเท่าเดิมอยู่ฉันเลยขอดูหลักฐานที่เขาใช้ในการแจ้งความ ปรากฎว่าเป็นหลักฐานเดิมที่ให้ดูตอนจ่ายเก้าหมื่นเลยเรียกนายจ้างมาคุยเขาบอกฉันว่าเก้าหมื่นเป็นยอดเก่า แสนสองเป็นยอดใหม่ ฉันเลยถามว่ายอดเก่าอันไหนเพราะตอนที่เกิดเรื่องก็มีแค่ยอดนี้เขาบอกว่าคนที่ไปเก็บเงินบอกว่าเอาเงินมาให้ฉันแล้วซึ่งตอนนั้นฉันงงมาก ถามไปถามมาสรุปว่ามันคือยอดเงินที่ไม่มีเข้าบัญชี หาคนรับผิดชอบไม่ได้เลยมาลงที่ฉัน เพราะตามหลักแล้วด้วยหน้าที่ฉํนต้องรับผิดชอบ(เสมียน)แต่มันไม่มีลายเซ็นฉันนะคะฉันบอกเขา เขาตอบว่าถ้าฉันรู้ตัวคนเอาไปให้ฉันไปตามเอากับคนนั้นเองแต่ตอนนี้เขาจะเอาที่ฉัน แล้วใครเขาจะยอมรับล่ะคะ เดำกระด้าง เน่า เละ เฟะ่าเขาไม่หลักฐานในส่วนนั้นก็จริงแต่เขามีพยาน ก็คนที่ไปเก็บเงินล่ะค่ะ  สรุปก็คือเงินเก้าหมื่นแรกที่ให้ไปฉันใช้หนี้ของคนอื่นค่ะ ฉันเลยเรียกพยานคนเดียวที่ฉันมีอยู่(เพราะพวกนั้นยังทำงานอยู่)มาคุยเพราะเขายืนยันว่าคนที่ไปเก็บเงินมาเอามาให้เขายืม ฉันถามว่าจ่ายหนี้คนนั้นไปหรือยังเขาบอกจ่ายบางส่วนแล้วฉันเลยบอกว่าเงินส่วนนั้นฉันได้รับผิดชอบนะถ้าเอาไปจ่ายเขาแล้วเท่ากับว่าเขาได้เงินใช้ฟรีคนใช้หนี้คือฉัน  น้องเขาเลยจะไปถามเงินคืนเพื่อมาจ่ายฉันแทน ปรากฎว่าพอไปถึงสามีของเขากลับเดินออกมาทำร้ายร่างกายน้องคนนั้น(ก่อนที่จะเข้าไปน้องเขาโทรเข้าไปก่อน)ก็ต้องไปแจ้งความที่โรงพัก
ชั้นควรจะทำไงดีคะตอนนี้สับสนไปหมดช่วยแนะนำทีค่ะ ตอนนี้ห่วงลูกมาก


ตอบ...ควรรีบหาทนายความช่วยเหลือครับ
บันทึกการเข้า
มโนธรรม
รองผู้ดูแลระบบ
รุ่นเก๋า
*

ค่าพลัง: +13/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 811


« ตอบ #5 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2012, 12:32:50 pm »

เรื่องมีว่า ....... ดิฉันได้ทำหนังสือสัญญยืมเงินจำนวน สามแสนบาท โดยใช้รถเป็นนหลักทรัพย์คำประกันไว้ โดยยังไม่โอนชื่อมาเป็นของดิฉัน แต่เป็นของบริษัทไปก่อน ต่อมาได้คืนแล้วยังไม่ไทนโอน ยืมเอง สรุปก็ยังไม่ได้โอน แต่ในสัญญา ไม่ได้ระบุว่าจะคืนวันไหนอย่างไร แต่จะเร่งดำเนินการให้โดยการผ่อนชำระ เป็นรายเดือน แต่ขาดส่งไม่ได้ผ่อนเลย ต่อมาทางบริษัท ได้มาเจรจาจะขอยึดรถคืนแต่ดิฉันบอกไม่ได้หรอก จากนั้นประมาณสองเดือน จนวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์มาขอนัดเจรจา โดยแจ้งว่าเขากล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ ทั้งๆที่ทราบมีเอกสารแสดงว่าเป็นการยืมเงิน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้คะ
แล้ววันที่เจรจาเราไม่ส่งมอบจะทำยังไงคะ


ตอบ...ในเมื่อรถเป็นของบริษัท  ก็ต้องคืนเขาไป  เรื่องราวของคุณสับสนชอบกล  ลองเรียบเรื่องให้ชัดเจน  และถามมาใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
SUTHORPONG
รุ่นใหม่
*

ค่าพลัง: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #6 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2013, 09:49:10 am »

เรื่องของผมเริ่มจากได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งและได้อุปการะส่งเสียทุกอย่างโดยรู้ประวัติตามที่เธอได้บอกไว้ว่าเป็นคนโสดเพิ่งเลิกกับสามีและมีพี่ชายหนึ่งคน อีกทั้งเอาตัวคนในครอบครัวมายืนยัน(ซึ่งตอนหลังเป็นตัวละครที่เธอเซ็ตขึ้นมาทั้งหมด)ผมก็เชื่อใจและคบกันมาเป็นเวลาเกือบ10เดือนส่งเสียเลี้ยงดูทุกอย่างและซื้อรถยนต์ให้1คันเป็นชื่อของผมและผมเป็นคนส่งค่างวดรถเองเธอค่อนข้างใช้เงินเปลืองมากเดือนนึงหลายหมื่นบาทอ้างว่ามีปัญหาตลอดมาระยะหลัง(2-3เดือนก่อนหน้า)ใช้เงินเปลืองมากเดือนนึงแสนกว่าอ้างว่าพ่อไปกู้เงินนอกระบบและหนีไปเมืองนอกเธอต้องรับใช้เองและด้วยความเป็นห่วงผมจึงจำต้องแบกภาระเองดดยที่ไม่นึกเฉลียวใจอีกทั้งผมงานยุ่งมากไม่มีเวลาไปหาเธอหรือพอมีเวลาเธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้พบ(ผมทำงานอยู่ชลบุรีส่วนเธออยู่โคราชปกติเดือนนึงผมจะไปหาเธอ2ครั้ง)จนผมมารู้ความจริงที่ว่าพี่ชายเธอแท้จริงเป็นสามีของเธอที่ร่วมกันหลอกลวงผมตลอดมา ด้วยเหตูนี้ผมจึงอยากได้รถยนต์คืนจึงได้แจ้งกับเธอและสามีของเธอและได้รับคำตอบว่าถ้าอยากได้รถคืนต้องเสียเงินค่าตกแต่งรถที่สามีเธอได้ไปทำมาจำนวน75,000บาทจึงจะยอมคืนให้ทั้งๆที่สามีเธอซึ่งอ้างว่าเป็นพี่ชายของเธอในตอนแรกไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งค่าใช่จ่ายทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับผมจนทำให้ผมคิดว่าเค้าจะเอาเงินที่ไหนไปตกแต่งรถนอกจากเงินของผมที่ถูกหลอกไปผมจึงอยากถามว่า   1.ผมสามารถเอารถยนต์คืนโดยไม่ต้องเสียเงินค่าตกแต่งรถเพิ่มและไม่ต้องให้เค้าถอดอะไหล่ที่ตกแต่งไปทั้งหมดได้หรือไม่
                                                           2.ผมสามารถเอาความผิดกับสามีภรรยาทั้งสองคนนี้ได้หรือไม่
                                                           3.ผมสามาถยึดทรัพย์สินที่ผมซื้อไปเข้าบ้านเค้าคืนมาได้หรือไม่
                                                                                                                                   
บันทึกการเข้า
ทนายเจม
ผู้ดูแลระบบ
รุ่นใหญ่
*

ค่าพลัง: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2013, 10:58:54 am »

เรื่องของผมเริ่มจากได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งและได้อุปการะส่งเสียทุกอย่างโดยรู้ประวัติตามที่เธอได้บอกไว้ว่าเป็นคนโสดเพิ่งเลิกกับสามีและมีพี่ชายหนึ่งคน อีกทั้งเอาตัวคนในครอบครัวมายืนยัน(ซึ่งตอนหลังเป็นตัวละครที่เธอเซ็ตขึ้นมาทั้งหมด)ผมก็เชื่อใจและคบกันมาเป็นเวลาเกือบ10เดือนส่งเสียเลี้ยงดูทุกอย่างและซื้อรถยนต์ให้1คันเป็นชื่อของผมและผมเป็นคนส่งค่างวดรถเองเธอค่อนข้างใช้เงินเปลืองมากเดือนนึงหลายหมื่นบาทอ้างว่ามีปัญหาตลอดมาระยะหลัง(2-3เดือนก่อนหน้า)ใช้เงินเปลืองมากเดือนนึงแสนกว่าอ้างว่าพ่อไปกู้เงินนอกระบบและหนีไปเมืองนอกเธอต้องรับใช้เองและด้วยความเป็นห่วงผมจึงจำต้องแบกภาระเองดดยที่ไม่นึกเฉลียวใจอีกทั้งผมงานยุ่งมากไม่มีเวลาไปหาเธอหรือพอมีเวลาเธอก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้พบ(ผมทำงานอยู่ชลบุรีส่วนเธออยู่โคราชปกติเดือนนึงผมจะไปหาเธอ2ครั้ง)จนผมมารู้ความจริงที่ว่าพี่ชายเธอแท้จริงเป็นสามีของเธอที่ร่วมกันหลอกลวงผมตลอดมา ด้วยเหตูนี้ผมจึงอยากได้รถยนต์คืนจึงได้แจ้งกับเธอและสามีของเธอและได้รับคำตอบว่าถ้าอยากได้รถคืนต้องเสียเงินค่าตกแต่งรถที่สามีเธอได้ไปทำมาจำนวน75,000บาทจึงจะยอมคืนให้ทั้งๆที่สามีเธอซึ่งอ้างว่าเป็นพี่ชายของเธอในตอนแรกไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งค่าใช่จ่ายทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับผมจนทำให้ผมคิดว่าเค้าจะเอาเงินที่ไหนไปตกแต่งรถนอกจากเงินของผมที่ถูกหลอกไปผมจึงอยากถามว่า   1.ผมสามารถเอารถยนต์คืนโดยไม่ต้องเสียเงินค่าตกแต่งรถเพิ่มและไม่ต้องให้เค้าถอดอะไหล่ที่ตกแต่งไปทั้งหมดได้หรือไม่
                                                           2.ผมสามารถเอาความผิดกับสามีภรรยาทั้งสองคนนี้ได้หรือไม่
                                                           3.ผมสามาถยึดทรัพย์สินที่ผมซื้อไปเข้าบ้านเค้าคืนมาได้หรือไม่
                                                                                                                                    
1.ท่านไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าแต่งรถ
2.เมื่อท่านให้ผู้หญิงยืมใช้รถ ต่อมาท่านขอคืน และผู้หญิงคนดังกล่าวไม่คืนให้ ท่านสามารถดำเนินคดียักยอกทรัพย์ได้
3.ทรัพย์สินดังกล่าวถือว่าท่านได้ให้ไปโดยเสน่หา ไม่สามารถทวงคืนได้
บันทึกการเข้า


ชุมชนบริสุทธิ์ ยุติธรรม : ชุมชนออนไลน์นักกฎหมายไทย
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 19 คำสั่ง