ถูกฟ้องเพราะเป็นทายาทผู้ค้ำประกันค่ะ

[Ja4298]

เมื่อสองสามวันก่อน มีหมายศาลมาที่บ้าน ฟ้องพี่สาวดิฉันค่ะ  เนื่องมาจากแม่ของดิฉันได้ไปค้ำประกันเงินกู้ธนาคารออมสินให้กับเพื่อน  แต่แม่ของดิฉันได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสามปีก่อน  ในเอกสารแจ้งว่าเพื่อนของแม่ได้ผิดนัดชำระตั้งแต่เดือนสิงหาคม2559  ยอดหนี้ห้าแสนกว่าบาท ให้พี่สาวดิฉันไปศาลไกล่เกลี่ยเดือนหน้า  คือผู้กู้เขายังมีชีวิตอยู่แต่ธนาคารจะสามารถฟ้องพี่สาวดิฉันได้รึคะ  แล้วดิฉันกับพี่สาวควรทำอย่างไรดีคะ  เพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่าแม่ไปค้ำประกันค่ะ

[มโนธรรม]

มรดกหนี้
    แม่ในฐานะผู้ค้ำประกัน  ก็คือเป็นลูกหนี้คนหนึ่ง  เมื่อผู้กู้ผิดนัดการชำระหนี้  แม่ก็ต้องถูกทวงถามให้ใช้หนี้  เมื่อแม่เสียชีวิตลง เจ้าหนี้ ก็ฟ้องทายาทของแม่ (พี่สาว)ให้ต้องรับผิดแทนแม่ได้  คือรับมรดกหนี้  พี่สาวควรไปศาลตามนัด  และปฏิเสธการใช้หนี้  ในสองประเด็นคือ  เจ้าหนี้ไม่เรียกร้องภายในหนึ่งปี  จึงไม่สามารถฟ้องทายาทได้อีก  และประเด็นที่สอง  พี่สาวของคุณไม่ได้รับมรดกจากแม่  จึงไม่ต้องรับผิดในการใช้หนี้  ถ้าไม่ไปศาลตามนัด เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง  หรือไม่ยื่นคำให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้  ถือว่าสละสิทธิ์ในการต่อสู้  ศาลอาจให้พี่สาวใช้หนี้ตามที่เจ้าหนี้ฟ้องก็ได้ ครับ

[Ja4298]

วันนี้ดิฉันกับพี่สาวได้ไปศาลมาแล้วเพื่อไกล่เกลี่ย  จำเลยที่1(ผู้กู้) ไม่มา ดิฉันได้พบกับทนายโจทก์ ทนายโจทก์แจ้งว่ายังไม่ได้รับเอกสารจากทางสาขาของธนาคาร และแจ้งกับพี่สาวดิฉัน(จำเลยที่2)ว่าให้เลื่อนนัดไปเป็นเดือนหน้าก่อน  และมีเอกสารการเหตุผลการเลื่อนนัดมาให้เซ็น  และทนายโจทก์ยังย้ำกับพี่สาวของดิฉันอีกว่านัดหน้าพี่สาวดิฉันไม่ต้องมาก็ได้ถึงสองครั้ง  ดิฉันอยากทราบว่าในเมื่อดิฉันแจ้งกับทางทนายโจทก์ไปแล้วว่าดิฉันกับพี่สาวไม่สามารถติดต่อผู้กู้ได้ เพราะเหตุใดทนายโจทก์จึงแจ้งกับพี่สาวดิฉันว่านัดหน้าไม่ต้องมาก็ได้ล่ะคะ   และอีกเรื่องนึงคือดิฉันอยากสอบถามว่าดิฉันกับพี่สาวได้มรดกมาจากแม่เป็นที่ดินแปลงหนึ่ง ตอนนี้เป็นชื่อดิฉันกับพี่สาว ทางโจทก์จะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้ขายที่แปลงนี้เพื่อมาชำระหนี้ได้หรือไม่คะ

[มโนธรรม]

เมื่อถูกฟ้อง

  ต้องยื่นคำให้การตามนัด  ถ้าไม่ยื่นคำให้การตามนัด  ย่อมเสียสิทธิ์ในการนำพยานเข้าต่อสู้ ย่อมเสียเปรียบ  และการไม่ไปศาลตามที่มีคนแนะนำ  อาจมีปัญหาว่า   พี่สาวไม่ต่อสู้คดี  คือรับผิดตามฟ้อง ศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้  เพราะไม่ใช่คดีอาญา  ดังนั้นอาจแพ้คดีได้ง่ายๆ  ดังนั้นควรไปศาลตามนัด...ส่วนเรื่องที่ดิน ถ้าเป็นมรดก  เจ้าหนี้ ก็สามรถยึดมาขายใช้หนี้ได้  แต่ต้องหลังจากศาลให้ใช้หนี้ตามฟ้อง   อย่างไรก็ตาม  ในชั้นไกล่เกลี่ย ถ้ายอมผ่อนปรน หรือ ยอมถอยคนละก้าว คดีคงจบลงด้วยดี ครับ