สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปก่อนค่ะ
ดิฉันเช่าตึกแถวหนื่งคูหาเพื่อประกอบการค้า โดยทำสัญญาเช่าฉบับแรกหกเดือน เป็นเงิน18000 บาท และค่าประกันค่าน้ำค่าไฟอีก2000 บาท สัญญาเช่าสิ้นสุด 28 เดือนกุมภา 56 แต่เมือวันที่2 มกราคม56 เจ้าของตึกแถวขอทำสัญญาฉบับใหม่โดยขอเก็บเงินล่วงหน้าหนึ่งปี เป็นเงิน36000 บาท โดยสัญญามีผล1 มีนา56 ถึง1 มีนา 57 แต่ประมาณกลางเดือนมกราคม กิจการเริ่มประสบปัญหา จึงคิดว่าหยุดดีกว่าต้องควักทุนทุกวัน จึงโทรขอยกเลิกสัญญาเช่าฉบับที่เพิ่่งทำใหม่ โดยให้ข้อเสนอเจ้าของอาคารว่าถ้าไม่มีเงินคืน ก็ขออนุญาตให้ประกาศหาคนเช่าช่วงต่อได้ แต่เจ้าของบอกว่าจะคืนเงินให้ตอนสิ้นเดือนกุมภา ซึ่งดิฉันได้ทำการย้ายของออกเมือวันที่20 กุมภา56 และให้พยานที่เป็นญาติเจ้าของอาคารมารับทราบ และทางญาติเจ้าของอาคารก็เอากุญแจชุดใหม่มาล็อคประตู ดิฉันรอจนสิ้นเดือนก็ไม่มีการติดต่อคืนเงินจากเจ้าของอาคาร ดิฉันจึงติดต่อไปทางโทรศัพท์ ไปเมือวันที่1มีนา ที่ผ่านมา ได้รับข้ออ้างสารพัดว่าไม่มีเวลา ไม่ว่าง เดี๋ยวรออีกสักสองสามวัน สรุปแล้วดิฉันคิดว่าเค้าตั้งใจจะไม่คืนเงิน อย่างนี้ดิฉันต้องทำอย่างไรค่ะ
กรณีต้องตรวจสอบว่าตามสัญญาเช่าฉบับใหม่ระบุว่าเงินที่ท่านได้ชำระไปนั้น เป้นค่าเช่าล่วงหน้า หรือ เป็นเงินมัดจำ หากเป็นเงินมัดจำ เจ้าของตึกสามารถริบได้ แต่เท่าที่ดูมัดจำอาจจะสูงเกินไป ซึ่งหากไม่ยอมคืนให้ ท่านสามารถดำเนินคดีต่อศาล เพื่อขอให้ศาลพิพากษาลดเงินที่ริบลงได้ แต่หากเป็นเงินค่าเช่า เจ้าของตึกต้องคืนให้ท่านทั้งหมด ซึ่งหากไม่คืนให้ ท่านสามารถฟ้องต่อศาลเป็นคดีผู้บริโภคได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์น้อย แนะนำให้ทวงถามหรือทำหนังสือทวงถามไปก่อนครับ และหากสุดท้ายยังไม่คืนให้ ท่านสามารถฟ้องคดีผู้บริโภคต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาได้ด้วยตนเอง (ตึกอยู่ที่เขตไหน ฟ้องศาลที่มีอำนาจเขตนั้น)